Resonance R26m

วัตถุประสงค์

  • เพื่อประเมินพยาธิสภาพที่เกิดขึ้นในหูชั้นกลาง
  • เพื่อตรวจยืนยันผลการตรวจรักษาก่อนและหลังผ่าตัด

คุณสมบัติทั่วไป

  • ตรวจวิเคราะห์การทำงานได้ทั้งแบบเลือกการทำงานอัตโนมัติ ( Automatic test ) หรือตรวจแบบผู้ใช้งานเป็นผู้ควบคุม ( Manual )
  • ตรวจสภาพการหดตัวของกล้ามเนื้อในหูชั้นกลาง (Acoustic Reflex Threshold)
  • ตรวจหาระยะเวลาการคงอยู่ของการหดตัวของกล้ามเนื้อในหูชั้นกลาง (ความล้าของการกระตุกของกล้ามเนื้อในหูชั้นกลาง) (Acoustic Reflex Decay)
  • มีเครื่องพิมพ์ผลภายใน สั่งพิมพ์ได้โดยตรง (Direct printer)
  • มีช่องต่อ USB เป็นอุปกรณ์มาตรฐานเพื่อต่อกับเครื่องคอมพิวเตอร์
  • Probe มี 4 ความถี่ที่ 226, 678, 800 และ 1,000 Hz
  • ใช้ไฟ 220 โวลท์  50 เฮิร์ทซ

คุณลักษณะเฉพาะ

  • เป็นเครื่องที่สามารถใช้ตรวจได้ทั้งการคัดกรอง ( Screening ) และในทางคลีนิค ( Clinical )
  • สามารถตั้งโปรแกรมการตรวจต่างๆ
  • หน้าจอแสดงผลเป็นสี TFT ขนาด 7 นิ้ว
  • probe ที่ใช้ตรวจมีขนาดเล็ก เหมาะสม ไม่มีอุปกรณ์คาดศีรษะหรือครอบศรีษะ
  • ตรวจวิเคราะห์การทำงานของหูชั้นกลาง (Tympanometry) ได้ 2 แบบ สามารถเลือกตรวจแบบอัตโนมัติหรือเลือกการทำงานจากเครื่องเองได้
  • แสดงค่า Y, B, G curve.
  • มีภาพกราฟฟิคแสดงเพื่อกระตุ้นความสนใจในการตรวจเด็กเล็ก
  • Probe Tone : 226 Hz : 85 dB SPL +/- 2 dB
    • 678 Hz, 800 Hz และ 1000 Hz : 75 dB +/- 2 dB
  • ช่วงความดัน ตั้งแต่ +200 ถึง – 400 daPa ( เพิ่ม/ลดได้ขั้นละ 50 daPa ) โดยมีอัตราความเร็วให้เลือกตั้งแต่ 50, 100, 200, 300 daPa หรือ อัตโนมัติ
  • ตรวจหาความดังที่ทำให้เกิดการหดตัวของกล้ามเนื้อในหูชั้นกลาง (Acoustic reflex threshold) ได้ ทั้งชนิด Ipsilateral และ Contralateral
  • ตรวจสภาพการหดตัวของกล้ามเนื้อในหูชั้นกลาง (Acoustic reflex Threshold)ได้ทั้งแบบอัตโนมัติและทำการตรวจด้วยตัวเองได้
  • มีเสียงกระตุ้น Reflex เป็น Pure tone ความถี่ที่ใช้ตรวจ ดังนี้
    • การตรวจแบบ Ipsilateral Reflex
      • ที่ความถี่ 500 – 4,000 Hz ความดังตั้งแต่ 50 – 110 dB HL
      • ที่ BBN ( HP/LP noise ) ความดังตั้งแต่ 50 – 100 dB SPL
    • การตรวจแบบ Contralateral Reflex
      • ที่ความถี่ตั้งแต่ 250 – 8,000 Hz ความดังตั้งแต่ 50 -120 dB HL
      • ที่ BBN ( HP/LP noise ) ความดังตั้งแต่ 50 – 115 dB SPL
  • ตรวจหาระยะเวลาการคงอยู่ของการหดตัวของกล้ามเนื้อในหูชั้นกลาง (ความล้าของการกระตุกของกล้ามเนื้อในหูชั้นกลาง) (Acoustic Reflex Decay)
  • สามารถพิมพ์ผลการตรวจผ่านเครื่องพิมพ์ผลในตัวหรือบันทึกผลใส่ใน USB drive เป็นไฟล์ pdf เพื่อพิมพ์ผลหรือต่อผ่านเครื่องคอมพิเตอร์โดยใช้ software MDS ได้
  • ขนาด 370x290x180 มิลลิเมตร น้ำหนัก 3.5 กิโลกรัม
  • ได้มาตรฐาน MDD 93/42/EEC, IEC 60645-5, ANSI S3.39 Type 2